สรุปประเด็นการเสวนาผู้ตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๔
เรื่อง การตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร
วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
๑. แนวทางการตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร
๑.๑ หลักสูตรแยกเปิดสอนตามส่วนงาน ๒๘๙ หลักสูตร
– ส่วนงานจัดการศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจประเมินฯ
– กรอกข้อมูลใน ระบบ MCU E-SAR และ CHE QA Online
– ตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร Online หรือ Onsite ใน ระบบ MCU E-SAR
– ตรวจประเมิน ในวันที่ ๑ – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕
๑.๒ หลักสูตรรวม ๑๐ หลักสูตร
– คณะต้นสังกัดหลักสูตรรวมแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจประเมิน
– กรอกข้อมูลในระบบ CHE QA Online
– ตรวจประเมินฯ Online หรือ Onsite ในระบบ CHE QA Online
– ตรวจประเมิน ในวันที่ ๑ – ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕
๒. แนวทางตรวจประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับคณะ วิทยาเขต และวิทยาลัย
– มหาวิทยาลัยคัดเลือกและแต่งตั้งประธานและกรรมการ
– คณะ วิทยาเขตและวิทยาลัย กรอกข้อมูลในระบบ MCU E-SAR และ ระบบ CHE QA Online
– คณะกรรมการตรวจประเมิน ใน ระบบ CHE QA Online
– ตรวจประเมินฯ Online ๓๔ ส่วนงาน
– ตรวจประเมิน Onsite ๖ แห่ง คือ วส.บุรีรัมย์ วส.ร้อยเอ็ด วส.อุทัยธานี วส.พิจิตร วส.กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ และ วส.ชลบุรี
– ตรวจประเมิน ในวันที่ ๑ กรกฎาคม – ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕
๓. องค์ประกอบที่ ๑ การกำกับมาตรฐานหลักสูตร
๓.๑ เอกสารและหลักฐานประกอบการพิจารณาคุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
– คำสั่งจ้างอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตร
– สัญญาจ้างอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตร (ผ่านกระบวนการของมหาวิทยาลัย)
– คำสั่งแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบ/อาจารย์ประจำหลักสูตร
– หลักฐานการเทียบวุฒิการศึกษาของอาจารย์ผู้รับผิดชอบ/อาจารย์ประจำหลักสูตร ในกรณีสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ
– ผลงานวิชาการอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ๕ ปีย้อนหลัง
– กรณีอาจารย์ใหม่ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก แต่ยังไม่มีผลงานทางวิชาการ ถ้าต้องการเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในระดับปริญญาโท-เอก ต้องมีผลงานวิชาการภายหลังการสำเร็จการศึกษา อย่างน้อย ๑ ชิ้น ภายใน ๒ ปี หรืออย่างน้อย ๒ ชิ้น ภายใน ๔ ปี หรือ อย่างน้อย ๓ ชิ้น ภายใน ๕ ปี
– กรณีปรับเปลี่ยนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร หากเอกสารอยู่ในกระบวนการดำเนินการ ให้มีระยะเวลาไม่เกิน ๙๐ วัน
๓.๒ คุณสมบัติผู้สอบวิทยานิพนธ์
– คุณสมบัติผู้สอบวิทยานิพนธ์ ระดับปริญญาโท จะต้องเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตร หรือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ไม่น้อยกว่า ๓ คน กรณีไม่เป็นไปตามคุณสมบัตินี้ ให้แต่งตั้งเป็นผู้สอบคนที่ ๔ เป็นต้นไปได้
๔. องค์ประกอบที่ ๒ บัณฑิต
๔.๑ ในตัวบ่งชี้ที่ ๒.๑ คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
– จำนวนบัณฑิตของทุกระดับ ใช้ข้อมูลในหนังสือสูจิบัตร ปี พ.ศ. ๒๕๖๔
– การกรอกผลคะแนนตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ ๕ ด้าน เป็นผลรวมของคะแนนเฉลี่ยแต่ละด้านของบัณฑิตแต่ละท่าน
– คะแนนผลการดำเนินงาน และคะแนนผลการประเมินจะต้องเท่ากัน
๔.๒ ในตัวบ่งชี้ที่ ๒.๒ การได้งานทำหรือผลงานวิจัยของผู้สำเร็จการศึกษา
– ข้อมูลจำนวนบัณฑิตระดับปริญญาตรี ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๒ ใช้สูจิบัตรปี พ.ศ. ๒๕๖๔
– ข้อมูลระดับปริญญาโท-เอก ตัวบ่งชี้ ๒.๒ ใช้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา ผ่านมติสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๔ – พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ /ผลงานนิสิตและบัณฑิต ใช้ผลงานที่ตีพิมพ์เผยแพร่ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๔ – พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ โดยนับเฉพาะที่ตีพิมพ์จริง ไม่นับหนังสือตอบรับของบรรณาธิการ
๔.๓ ในตัวบ่งชี้ที่ ๒.๓ บัณฑิตปริญญาตรีมีคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์สอบผ่านภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
– ทุกหลักสูตร ใช้ข้อมูลการประเมินนิสิตชั้นปีที่ ๔
๕. องค์ประกอบที่ ๓ นิสิต
– ในกรณีที่คณะกรรมการให้คะแนน ๔-๕ คะแนน จะต้องแสดงเหตุผลให้เห็นว่า ระบบที่ปรับปรุงใหม่ใช้ซ้ำแล้วดีขึ้นจริงอย่างไร โดยเขียนไว้ในรายงานผลการประเมิน ตามแบบฟอร์ม
๖. องค์ประกอบที่ ๔ อาจารย์
– กรณีที่ไม่มีการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบใหม่ ให้เขียนเชิงระบบและกลไกในการับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และบอกว่า ไม่มีการรับและแต่งตั้งในรอบปีการประเมิน
– คณะกรรมการ ควรให้ข้อเสนอแนะที่หลักสูตรสามารถนำไปพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรม
– การให้คะแนนของคณะกรรมการ ควรพิจารณาเป็นภาพรวมของผลการดำเนินงานในทุกประเด็น
– ผลงานวิชาการของอาจารย์ที่นับได้ในตัวบ่งชี้ที่ ๔.๒ ต้องตีพิมพ์เผยแพร่ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ (๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ – ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕)
– เอกสารประกอบการสอน และเอกสารคำสอน ที่ใช้ขอตำแหน่งทางวิชาการ ไม่นับเป็นคะแนนผลงานวิชาการ
– ผลงานสร้างสรรค์ที่จะมานับเป็นคะแนนต้องผ่าน มีเฉพาะหลักสูตรพุทธศิลปกรรม จะต้องดูวิธีการเผยแพร่
– ผลงานสร้างสรรค์ทุกชิ้นต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการที่มีองค์ประกอบไม่น้อยกว่า ๓ คน โดยมีบุคคลภายนอกสถาบันร่วมพิจารณาด้วย คิดค่าน้ำหนักตามระดับการเผยแพร่ ต้องเป็นผลงานศิลปะและสิ่งประดิฏฐ์ทางศิลปะประเภทต่างๆ
๗. องค์ประกอบที่ ๕ หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน
– กรณีประเมินหลักสูตรในปีที่ปรับปรุงตามรอบระยะเวลา ๕ ปี ให้พิจารณาการให้คะแนนจาก มคอ.๒
– กรณีไม่ใช่ปีปรับปรุงหลักสูตรตามรอบ ๕ ปี ให้พิจารณาการให้คะแนนจากผลการพัฒนาใน มคอ.๓ และ มคอ.๕
– การทวนสอบผลสัมฤทธิ์ ของแต่ละหลักสูตร ให้เป็นไปตามที่ มคอ.๒ ระบุไว้
– การพิจารณาตัวบ่งชี้ที่ ๕.๑ ให้ดู มคอ.๒ มคอ.๓ และ มคอ.๕ ให้เห็นความสอดคล้องของกระบวนการ
– การพิจารณาตัวบ่งชี้ที่ ๕.๒ ให้ดู มคอ.๓ เป็นหลัก ว่าสอดคล้องกับ มคอ.๒ หรือไม่
– การพิจารณาตัวบ่งชี้ที่ ๕.๓ ให้ดู มคอ.๕ เป็นหลัก
๘. องค์ประกอบที่ ๖ สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้
– เน้นพิจารณาระบบและกลไกการจัดเตรียมสิ่งสนับสนุนการเรียนที่เหมาะสมกับหลักสูตร
๙. การส่งรายงานการประเมินตนเองและรายงานผลการประเมิน
– การส่งรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ให้คณะกรรมการก่อนล่วงหน้า ขอให้คณะกรรมการแต่ละคณะประสานงานกับหลักสูตร เพื่อให้ได้ SAR อย่างน้อยก่อนตรวจ ๓ วัน
– รายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร ให้คณะกรรมการอัพโหลด ลงใน ระบบ MCU E-SAR โดยไม่ต้องมีลายเซ็นกรรมการ ให้พิมพ์รายชื่อ ฉายาและนามสกุล
– การกรอกรายงานผลการประเมินฯ ระดับหลักสูตร ในระบบ CHEQA Online คณะกรรมการตรวจประเมินตกลงร่วมกันกับส่วนงานเพื่อกรอกข้อมูลลงในระบบ CHEQA Online ระดับหลักสูตร ก่อนการตรวจประเมินระดับส่วนงาน
สำนักงานประกันคุณภาพ สรุปประเด็น
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕